Browse By

บาเยิร์น มิวนิค วางแผนขยายสัญญาพร้อมเพิ่มค่าจ้างแก่ ไมเคิ่ล โอลีเซ่

บาเยิร์น มิวนิค เดินหน้าเตรียมแผนการสำคัญในระยะยาว หลังมีรายงานว่ากำลังพิจารณาขยายสัญญาพร้อมเพิ่มค่าเหนื่อยให้กับ ไมเคิ่ล โอลีเซ่ ปีกดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสเชื้อสายไนจีเรียที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา จากผลงานที่น่าประทับใจเกินความคาดหมายในช่วงเปิดฤดูกาล 2025-26 จนได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากทั้งสื่อและแฟนบอล โอลีเซ่ย้ายจากคริสตัล พาเลซ มาสู่ถิ่นอัลลิอันซ์ อารีน่า ด้วยค่าตัวราว 50 ล้านยูโรเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งในตอนแรกหลายฝ่ายยังตั้งคำถามว่าเขาจะสามารถปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของบาเยิร์นและมาตรฐานฟุตบอลเยอรมันได้รวดเร็วเพียงใด แต่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากเปิดฤดูกาล ดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้กลับกลายเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญของทีมภายใต้การคุมทัพของแว็งซ็องต์ กอมปานี ที่ให้โอกาสเขาเป็นตัวจริงต่อเนื่อง และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จนถึงตอนนี้ โอลีเซ่ทำไปแล้ว 6 ประตูและ 7 แอสซิสต์จากการลงสนามเพียง 12 นัดในทุกรายการ ฟอร์มการเล่นของเขาถูกยกให้เป็นหนึ่งในปีกที่อันตรายที่สุดของบุนเดสลีกา ด้วยจุดเด่นคือการลากเลื้อยที่รวดเร็ว การเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกที่เฉียบคม และความสามารถในการสร้างสรรค์เกมจากทั้งสองฝั่ง ซึ่งช่วยเติมเต็มเกมรุกของบาเยิร์นให้มีมิติหลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการประสานงานกับเลรอย ซาเน่ และจามาล มูเซียล่า ที่กลายเป็นสามประสานแนวรุกที่เข้าขากันได้อย่างลงตัว ตามรายงานจากสื่อเยอรมัน Kicker

ฮูเลียน อัลวาเรซ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง

ฮูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาและสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้จะประสบความสำเร็จในระดับสูงทั้งกับสโมสรและทีมชาติ แต่ดาวยิงวัย 25 ปียืนยันว่าเขายังไม่คิดหยุดอยู่กับที่ พร้อมตั้งเป้าจะยกระดับฟอร์มการเล่นให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในทุกฤดูกาล อัลวาเรซเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นแบบอย่างของ “นักฟุตบอลที่ไม่ยอมหยุดเรียนรู้” เขาเพิ่งผ่านฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งคว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ แม้จะต้องลงสนามในบทบาทที่หลากหลาย ทั้งศูนย์หน้า ตัวรุกด้านข้าง และกองกลางตัวทำเกม แต่เจ้าตัวกลับทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ยิงรวมไปกว่า 18 ประตูจากทุกรายการ เมื่อไม่นานมานี้ อัลวาเรซให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นในอาร์เจนตินาว่า “ผมรู้ว่าผมยังมีหลายอย่างต้องพัฒนา ทั้งการเคลื่อนที่โดยไม่มีบอล การตัดสินใจในจังหวะสุดท้าย และการเล่นในพื้นที่แคบ ๆ ผมพยายามเรียนรู้จากทุกการซ้อม ทุกแมตช์ และจากทุกคนรอบตัว เพราะในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผมมีเพื่อนร่วมทีมระดับโลกที่สามารถสอนอะไรผมได้ทุกวัน” คำพูดของอัลวาเรซสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดที่แตกต่าง เขาไม่มองความสำเร็จเป็นจุดจบ แต่กลับมองว่าเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเองต่อไป ซึ่งเป็นทัศนคติที่สอดคล้องกับแนวทางของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างนักเตะให้เก่งขึ้นในทุกฤดูกาล กวาร์ดิโอล่ามักกล่าวถึงลูกทีมรายนี้ด้วยความชื่นชม

No Thumbnail

แซงต์ ชิลลัวส์ 0 – นิวคาสเซิ่ล 4

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีกเฟสเมื่อคืนที่ผ่านมา กลายเป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำของแฟนบอล “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อพวกเขาระเบิดฟอร์มสุดยอด บุกถล่มยูเนี่ยน แซงต์ ชิลลัวส์ ทีมแกร่งจากเบลเยียมไปแบบขาดลอย 4-0 เก็บสามแต้มสำคัญได้อย่างสวยหรู พร้อมแสดงให้เห็นว่าพวกเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในเวทียุโรปหลังจากห่างหายไปนานกว่า 20 ปี เกมนี้เล่นกันที่สนามโจเซฟ มาริยอง สเตเดียม ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยเสียงเชียร์ของแฟนบอลเจ้าถิ่น แต่ตั้งแต่นาทีแรกเสียงเหล่านั้นกลับถูกกลบด้วยฟอร์มอันดุดันของผู้มาเยือนจากอังกฤษ เอ็ดดี้ ฮาว จัดทีมเต็มสูบในระบบ 4-3-3 โดยใช้คัลลัม วิลสัน เป็นกองหน้าตัวเป้า ขนาบข้างด้วยมิเกล อัลมิรอน และแอนโทนี่ กอร์ดอน ส่วนแดนกลางมีบรูโน่ กีมาไรส์ คุมจังหวะเกมร่วมกับโจ วิลล็อค และฌอน ลองสตาฟฟ์ เพียง 11 นาทีแรกของเกม นิวคาสเซิ่ลก็ได้ประตูขึ้นนำจากความผิดพลาดของแนวรับเจ้าถิ่น เมื่อกองหลังแซงต์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจรจาการแข่งขันเกมอุ่นเครื่องที่ซาอุดีอาระเบีย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของการเจรจาเพื่อลงแข่งขันเกมอุ่นเครื่องพิเศษในช่วงกลางฤดูกาลที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยมีรายงานว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายฐานแฟนบอลและสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งกำลังกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของอุตสาหกรรมฟุตบอลโลกในปัจจุบัน ตามรายงานจากสื่ออังกฤษ The Times และ Daily Mail ระบุว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้รับข้อเสนอจากบริษัทผู้จัดการอีเวนต์กีฬาชั้นนำในซาอุดีอาระเบีย เพื่อจัดเกมอุ่นเครื่องระดับพรีเมียมในช่วงเดือนมกราคมปี 2026 ระหว่างช่วงพักเบรกของพรีเมียร์ลีกที่มักใช้สำหรับการฟื้นฟูสภาพร่างกายและฝึกซ้อม โดยเบื้องต้นคาดว่าเกมดังกล่าวจะมีขึ้นที่กรุงริยาด หรือเมืองเจดดาห์ ซึ่งทั้งสองเมืองล้วนมีสนามฟุตบอลระดับโลกที่สามารถรองรับแฟนบอลได้กว่า 50,000 ที่นั่ง สื่อดังรายงานเพิ่มเติมว่า สมาคมฟุตบอลซาอุดีอาระเบียมีแผนผลักดันให้การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Saudi Vision Sports 2030” ที่มีเป้าหมายจะทำให้ประเทศกลายเป็นศูนย์กลางของกีฬาระดับโลก ทั้งในแง่ของการจัดการแข่งขันและการดึงดูดสโมสรชื่อดังมาร่วมกิจกรรม โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราได้เห็นทั้งบาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และยูเวนตุส ต่างเคยเดินทางไปเล่นเกมอุ่นเครื่องหรือซูเปอร์คัพในดินแดนตะวันออกกลางมาแล้ว สำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดีลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการขยายอิทธิพลเชิงพาณิชย์ หลังจากสโมสรเพิ่งประกาศรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล

เผยความหมายรอยสักใหม่ การ์นาโช่

อเลฮานโดร การ์นาโช่ ปีกดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในวงการฟุตบอล หลังเจ้าตัวเปิดเผยรอยสักใหม่บนแขนขวาซึ่งเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้งและสะท้อนถึงแรงบันดาลใจในชีวิตส่วนตัว รวมถึงเส้นทางการต่อสู้บนถนนลูกหนังตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน รอยสักดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับบนเรือนร่าง แต่เป็นสัญลักษณ์ที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดของชายหนุ่มวัย 20 ปี ที่กำลังเดินบนเส้นทางสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการลูกหนังยุคใหม่ รอยสักใหม่ของการ์นาโช่ถูกเปิดเผยครั้งแรกผ่านภาพที่เจ้าตัวโพสต์ลงอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งแสดงให้เห็นแขนขวาที่เต็มไปด้วยลวดลายใหม่จากข้อมือจนถึงหัวไหล่ มีทั้งภาพพระเยซู รูปสิงโต และคำคมที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาสเปนว่า “La fe me hace fuerte” ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า “ศรัทธาทำให้ฉันแข็งแกร่ง” ภาพดังกล่าวได้รับยอดกดถูกใจกว่า 6 ล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง และกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว สำหรับการ์นาโช่ รอยสักชิ้นนี้ไม่ใช่เพียงงานศิลปะบนร่างกาย แต่เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเชื่อที่ผลักดันให้เขามาถึงจุดนี้ได้ เขาเติบโตมาในย่านฟวนโกลโด ประเทศสเปน ในครอบครัวชนชั้นแรงงานที่ต้องต่อสู้เพื่อชีวิตมาตลอด พ่อของเขามีเชื้อสายอาร์เจนตินา ส่วนแม่เป็นชาวสเปน และทั้งคู่คือแรงสนับสนุนสำคัญที่ผลักดันให้ลูกชายคนนี้ได้มีโอกาสตามฝัน แม้เส้นทางจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบก็ตาม “ทุกภาพบนร่างกายของผมมีเรื่องราวเบื้องหลัง ไม่มีรอยสักไหนที่ทำเพราะแฟชั่น ผมสักเพราะอยากจำความรู้สึกในแต่ละช่วงชีวิต และอยากให้มันอยู่กับผมไปตลอด” การ์นาโช่กล่าวในการสัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษ

นิโกลัส แจ็คสัน ทำประตูแรกในสีเสื้อ บาเยิร์น มิวนิค

นิโกลัส แจ็คสัน ศูนย์หน้าทีมชาติเซเนกัล เปิดตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบกับต้นสังกัดใหม่ บาเยิร์น มิวนิค หลังจากทำประตูแรกในสีเสื้อ “เสือใต้” ได้สำเร็จ ในเกมบุนเดสลีกาที่ต้นสังกัดเปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีน่า ถล่มเอาชนะแวร์เดอร์ เบรเมนไป 3-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา การยิงประตูแรกของเขาไม่เพียงช่วยปลดล็อกความกดดันส่วนตัว แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าศูนย์หน้ารายนี้กำลังเริ่มปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของทีมได้อย่างลงตัว เกมดังกล่าวถือเป็นการออกสตาร์ตตัวจริงนัดที่สามของแจ็คสันภายใต้การคุมทีมของแว็งซ็องต์ กอมปานี กุนซือคนใหม่ของบาเยิร์นที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำทีมและเน้นการเล่นเกมรุกที่รวดเร็วและดุดัน แจ็คสันถูกเลือกให้เป็นศูนย์หน้าหลักในระบบ 4-2-3-1 โดยมีจามาล มูเซียล่า และแซร์จ กนาบรี้ คอยป้อนบอลจากด้านข้าง ซึ่งในที่สุด ความพยายามของเขาก็ได้รับผลตอบแทนในนาทีที่ 56 ของเกม จังหวะประตูนั้นเกิดจากการประสานงานอันยอดเยี่ยมของผู้เล่นแนวรุก เมื่อโยชัว คิมมิช เปิดบอลทะลุช่องอย่างแม่นยำให้แจ็คสันหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนเจ้าตัวแตะหนีผู้รักษาประตูและยิงด้วยเท้าขวาเข้าประตูไปอย่างเฉียบคม เสียงเฮดังกึกก้องทั่วอัลลิอันซ์ อารีน่า ขณะที่เพื่อนร่วมทีมต่างวิ่งเข้าไปแสดงความยินดีกับดาวยิงวัย 23 ปีรายนี้ ซึ่งถือเป็นประตูแรกของเขาในเวทีบุนเดสลีกา และยังเป็นการประกาศศักดาอย่างเป็นทางการของนักเตะที่ถูกจับตามองอย่างมากหลังย้ายมาจากเชลซี หลังจบเกม

นีโก้ กอนซาเลซ : การเสริมทัพที่อาจเปลี่ยนโฉมแดนกลางตราหมี

ในตลาดนักเตะช่วงหลัง แอตเลติโก มาดริด ถูกจับตามองอย่างมากกับความพยายามดึงตัว นีโก้ กอนซาเลซ มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวสเปนวัย 22 ปี ที่เติบโตจากลา มาเซียของบาร์เซโลน่า ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ รู้ดีว่าการเติมพลังสดใหม่ในแดนกลางคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ทีมกลับมาท้าทายแชมป์ลาลีกาได้อย่างจริงจัง ข่าวนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการซื้อนักเตะคนหนึ่ง แต่สะท้อนถึงการปรับยุทธศาสตร์ของแอตเลติโก ที่ต้องการเสริมตัวเลือกให้มากกว่าการพึ่งพา โกเก้ หรือ โรดริโก้ เด ปอล ซึ่งแม้จะมีคุณภาพสูง แต่ก็แบกรับภาระอย่างต่อเนื่องมาหลายฤดูกาล โปรไฟล์ของนีโก้ กอนซาเลซ นีโก้เกิดเมื่อปี 2002 ที่เมืองอา กอรูญญา และเป็นลูกชายของ ฟราน กอนซาเลซ ตำนานเดปอร์ติโบ ลา กอรูญญา เขาเข้าศูนย์ฝึกลูกหนังลา มาเซียของบาร์เซโลน่าเมื่ออายุ 11 ปี และเติบโตในระบบการเล่นที่เน้นการครองบอล การอ่านเกม และการจ่ายบอลที่แม่นยำ สิ่งที่ทำให้นีโก้โดดเด่นกว่ามิดฟิลด์สเปนทั่วไปคือร่างกายที่สูงใหญ่ (1.88

แอตเลติโก มาดริด กำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดึง นีโก้ กอนซาเลซ

ในตลาดซื้อขายนักเตะของลาลีกา สเปน เรื่องราวที่สร้างความฮือฮาล่าสุดคือข่าวว่า แอตเลติโก มาดริด ทีมดังภายใต้การคุมทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กำลังเดินหน้าอย่างจริงจังเพื่อคว้าตัว นีโก้ กอนซาเลซ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของสเปนมาร่วมทีม ความพยายามครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเสริมขุมกำลัง แต่ยังสะท้อนถึงแผนระยะยาวของสโมสรที่ต้องการเติมเลือดใหม่ในแดนกลาง ข่าวการเจรจาระหว่างแอตเลติโกและต้นสังกัดของนีโก้ ทำให้แฟนบอลทั่วสเปนจับตา เพราะกอนซาเลซถือเป็นดาวรุ่งที่อนาคตไกลที่สุดคนหนึ่ง และการย้ายทีมครั้งนี้อาจเปลี่ยนโฉมหน้าแดนกลางของทีมตราหมีไปอีกหลายปีข้างหน้า โปรไฟล์ของนีโก้ กอนซาเลซ นีโก้ กอนซาเลซ เกิดในปี 2002 และเติบโตมากับอะคาเดมี ลา มาเซีย ของบาร์เซโลน่า จุดเด่นของเขาคือความแข็งแกร่งทางกายภาพผสมกับเทคนิคสไตล์สเปน เขามีร่างกายสูงใหญ่ แต่ก็ยังสามารถคอนโทรลบอลได้อย่างนุ่มนวล และอ่านเกมได้เฉียบคม เขาสามารถเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรับและบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ จุดแข็งคือการตัดเกม การเข้าสกัดที่แม่นยำ และการออกบอลสั้นยาวที่มีคุณภาพ กูรูฟุตบอลหลายคนมองว่าเขามีคุณสมบัติใกล้เคียงกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ในแง่การอ่านเกม แต่เพิ่มความแข็งแรงและพละกำลังเข้าไป สไตล์การเล่นที่ถูกเปรียบเทียบ สื่อและแฟนบอลมักเปรียบเทียบเขากับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์

ซาลีบา บาดเจ็บระหว่างวอร์มและแท็กติกใหม่ของ อาร์เตต้า

อาร์เตต้า เตรียมมาอย่างละเอียดฟุตบอลคือเกมแห่งความไม่แน่นอน และสิ่งนี้ถูกพิสูจน์อีกครั้งที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อ วิลเลียม ซาลีบา กองหลังตัวหลักของอาร์เซน่อล ได้รับบาดเจ็บระหว่างการวอร์มก่อนดวลกับ ลิเวอร์พูล เหตุการณ์นี้ไม่เพียงทำให้แฟนบอลช็อก แต่ยังสร้างความปั่นป่วนให้กับแผนการเล่นที่ มิเกล อาร์เตต้า เตรียมมาอย่างละเอียด ซาลีบาคือหัวใจแนวรับของอาร์เซน่อล การหายไปแบบกะทันหันไม่ต่างจากการดึงเสาหลักออกจากบ้านหลังหนึ่ง และสิ่งที่ตามมาคือคำถามว่า อาร์เตต้าจะปรับแท็กติกอย่างไรเพื่อให้ทีมยังคงยืนหยัดในการแข่งขันที่ดุเดือดของพรีเมียร์ลีก โปรไฟล์และความสำคัญของซาลีบา ซาลีบาคือกองหลังที่มีครบทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง และการอ่านเกม เขาเป็นตัวหลักที่ช่วยให้อาร์เซน่อลกลายเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดทีมหนึ่งในฤดูกาลก่อน จุดเด่นของเขาคือการเล่นลูกกลางอากาศและการดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับกองหน้าตัวจี๊ด ในระบบของอาร์เตต้า ซาลีบาคือคนที่เริ่มเกมรุกจากแนวหลังได้อย่างมั่นใจ เพราะสามารถออกบอลแม่นยำจากแดนตัวเองไปถึงแดนกลางหรือริมเส้นทันที จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่า เขาคือหัวใจของทั้งเกมรับและการเปลี่ยนจากรับเป็นรุก เหตุการณ์ระหว่างการวอร์ม ก่อนเริ่มเกมกับลิเวอร์พูล ซาลีบามีอาการเจ็บกล้ามเนื้อระหว่างการวอร์ม ทำให้ทีมแพทย์ต้องสั่งพักทันที ภาพที่เขาเดินออกจากการวอร์มพร้อมสีหน้าไม่สู้ดี สร้างความผิดหวังให้กับเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลที่ตามไปเชียร์ที่แอนฟิลด์ การเสียผู้เล่นหลักก่อนเกมใหญ่เช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่โค้ชทุกคนไม่อยากเจอ เพราะต้องปรับแผนในเวลาอันสั้น ขณะที่คู่แข่งอย่างลิเวอร์พูลได้ความได้เปรียบทางจิตใจทันที ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันที มุมมองจากสื่อและแฟนบอล การเจาะลึกแท็กติก: หากไม่มีซาลีบา อาร์เตต้าจะปรับแนวรับอย่างไร 1.

วิลเลียม ซาลีบา: บาดเจ็บระหว่างการวอร์มก่อนเกมกับลิเวอร์พูล

ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอ แต่เหตุการณ์ที่ทำให้แฟนบอลอาร์เซน่อลต้องช็อกที่สุดในเกมเยือน ลิเวอร์พูล คือการที่ วิลเลียม ซาลีบา ปราการหลังตัวหลักของทีม ได้รับบาดเจ็บระหว่างการวอร์มร่างกายก่อนเกมเริ่ม ทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้ตามแผนที่ มิเกล อาร์เตต้า วางไว้ การหายไปของซาลีบาไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะเขาคือหัวใจสำคัญในแนวรับของอาร์เซน่อลมาตลอด 2 ฤดูกาลหลัง การที่กองหลังตัวหลักต้องถอนตัวกะทันหันก่อนเกมใหญ่เช่นนี้ ไม่เพียงกระทบต่อแท็กติก แต่ยังส่งผลต่อขวัญกำลังใจของทีมโดยตรง โปรไฟล์ของวิลเลียม ซาลีบา ซาลีบาถือเป็นหนึ่งในกองหลังที่มีพรสวรรค์และพัฒนาเร็วที่สุดในยุโรป เขาย้ายมาอยู่กับอาร์เซน่อลตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนถูกส่งไปเก็บประสบการณ์ในฝรั่งเศส และกลับมาสร้างชื่อในพรีเมียร์ลีกด้วยสไตล์การเล่นที่มั่นใจและแข็งแกร่ง ซาลีบาจึงไม่ใช่เพียงกองหลังธรรมดา แต่คือ “ผู้นำเกมรับ” ที่ทีมพึ่งพาได้ และการหายไปของเขาส่งผลรุนแรงทันที เหตุการณ์ระหว่างการวอร์ม ก่อนเกมที่แอนฟิลด์ อาร์เซน่อลเตรียมตัวลงสนามเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ระหว่างการวอร์ม ซาลีบารู้สึกเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณหลังต้นขา ทำให้ทีมแพทย์ต้องเข้ามาตรวจทันที หลังจากนั้นไม่นานก็มีการยืนยันว่าเขาไม่สามารถเสี่ยงลงเล่นได้ ภาพที่ซาลีบาเดินออกจากการวอร์มพร้อมสีหน้าผิดหวัง ถูกจับภาพโดยสื่อและกลายเป็นประเด็นใหญ่ทันที เพราะนี่คือการขาดหายไปของนักเตะที่สำคัญที่สุดในแนวรับของอาร์เซน่อลก่อนเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดทีมหนึ่งในลีก ผลกระทบเชิงแท็กติกต่ออาร์เซน่อล 1. การปรับตัวกะทันหัน การขาดซาลีบาในนาทีสุดท้ายทำให้อาร์เตต้าต้องส่งผู้เล่นสำรองลงมาแทน ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้แนวรับเสียสมดุล